วันพุธที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

อำเภอเวียงแหง


 อำเภอเวียงแหง
เป็นเมืองที่อยู่ติดชายแดนไทยพม่า มีคนหลายเชื้อชาติอยู่ด้วยกันอย่างสันติ ทั้งชาวเขา ไทยใหญ่ จีนฮ่อ แต่ละกลุ่มต่างก็ยังดำรงชีวิตตามขนบธรรมเนียมเดิมของตนเอง ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ส่วนใหญ่จะปลูกข้าว เพราะมีลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบกว้างใหญ่ใจกลางหุบเขา ชาวบ้านใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายเพราะความเจริญยังแพร่มาไม่มากนัก เนื่องจากการสัญจรไปมาต้องผ่านเส้นทางคดเคี้ยวสูงชัน เลาะขุนเขาหลายลูกกว่าจะเข้าถึงได้ ปัจจุบันพึ่งมีถนนลาดยางตัดเข้าถึง จึงเหมือนเป็นการเปิดอำเภอนี้สู่โลกภายนอกอย่างแท้จริง
โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ดอยคำ เนื่องจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯทอดพระเนตรพื้นที่บริเวณดอยคำและทรงมีพระราชดำริให้จัดทำ โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ โดยใช้หลักการ 3 อ.คือ อิ่ม อุ่น และอุดมการณ์ มีราษฎรที่เข้าร่วมโครงการทำหน้าที่เป็นยามรักษาชายแดน และแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ และศึกษารูปแบบหรือแนวทางให้คนอยู่กับป่าได้อย่างกลมกลืนโดยไม่ทำลายป่า

 
ถ้ำโบราณ
ตั้งอยู่ที่ บ้านลีซอแม่แตะ ต.เมืองแหง เป็นถ้ำของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ หรือ ยุคหินกลางอายุประมาณ 5,000 ปี มีความลึกประมาณ 69 เมตร และพบขวานหินกะเทาะฝังอยู่บริเวณปากถ้ำและภายในถ้ำ รวม 8 อัน อายุประมาณ 4,000-5,000 ปี พบว่าอยู่ในยุคโคบินเนียน หรือ ยุคหินกลาง
 

บ้านเปียงหลวง
อยู่ติดชายแดนไทย - พม่า มีด่าน ช่องหลักแต่ง เป็นด่านชั่วคราวที่เปิดการค้าขาย ชายแดนในระดับท้องถิ่น ในยามเหตุการณ์สงบด่านจะเปิดให้ชาวบ้านในละแวกข้ามมาค้าขายกันได้ ชาวบ้านในตำบลนี้เป็นจีนฮ่อและไทยใหญ่ โดยชาวจีนฮ่อนั้นอพยพเข้ามาในสมัยเจียงไคเช็คเป็นประธานประเทศ แต่ก็ยังไม่ละทิ้งวัฒนธรรมเดิม ทุกคนจะเรียนภาษาจีนเพิ่มเติมตอนเย็นโดยได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลไต้หวัน
 
พระบรมธาตุแสนไห
อยู่ที่ตำบลเมืองแหง จากบ้านเมืองายเข้ามา 55 กิโลเมตร เชื่อกันว่าสร้างมาตั้งแต่ สมัยพุทธกาลแต่มา ได้รับการบูรณะในพ.ศ. 2457 เป็นปฏิมากรรมผสมระหว่างพม่า และล้านนาไทย ซึ่งการก่อสร้างทับพระธาตุเดิมที่มีขนาดเล็ก โดยของใหม่มีสันถาร 8 เหลี่ยม สันนิษฐานว่าที่นี่มีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกับสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเมื่อครั้งยกทัพ ไปยังเมืองอังวะของพม่าเมื่อปี พ.ศ. 2147 หลังจากประชุมพลที่เมืองงาย จึงเสด็จไปทางเมืองห้างหลวงซึ่งน่าจะเป็นเมืองแหงในปัจจุบันเพราะมีคูเมืองล้อมยาวกว่า 2 กิโลเมตร และเป็นเมืองเดียวที่อยู่ระหว่างเมืองงายกับเมืองอังวะของพม่า เชื่อว่าพระองค์น่าจะเสด็จมาพักทัพที่พระบรมธาตุแห่งนี้และสร้างบ่อน้ำใช้ส่วนพระองค์ และช้างศึกตรงบริเวณด้านหน้าเนินเขาที่ประดิษฐานพระบรมธาตุ ชาวบ้านเรียกว่าบ่อน้ำช้าง ประเพณีที่สำคัญของวัดนี้ คือ งานสรงน้ำพระบรมธาตุ ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ของทุกปี


ไร่ช้างขาว
ตั้งอยู่ ที่ 354 หมู่ 2 บ้านกองลม ต.เวียงแหง อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 150 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง โดยรถยนต์ พื้นที่ของไร่ช้างขาว อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 700 เมตร อาการค่อนข้าเย็นสบายตลอดทั้งปี พืชที่ปลูกเป็นพืชผัก เช่น พริกชี้ฟ้า กะหล่ำม่วง ไม้ผล เช่น ส้มสายน้ำผึ้งและโชกุน ประมาณ 200 ไร่ (เฉพาะพริก) พริกที่ปลูกมีหลากหลายพันธุ์ตามความต้องการ ของท้องตลาด ซึ่งปัจจุบันทางไร่ได้พัฒนาการผลิตพริกสดเพื่อลดการใช้สารเคมีหรือการผลิต แบบชีวภาพและการผลิตที่ปลอดสารพิษเพื่อการส่งออกไปขาย ตลาดแถบยุโรป ซึ่งมีการตรวจสารเคมีที่เข้มงวดมาก นักท่องเที่ยวสามารถแวะชมไร่ และมีบ้านพักบริการ
 
วัดฟ้าเวียงอินทร์
ลักษณะสถาปัตยกรรมเป็นแบบไทยใหญ่ อยู่ที่บ้านหลักแต่งตรงชายแดนไทย - พม่าพอดีสมัยก่อนบริเวณบ้านหลักแต่งนี้ถือเป็นเขตอิทธิพลของขุนส่า อาณาเขตของวัดนี้จึงนับเป็นดินแดนเดียวกันแต่เมื่อขุนส่ามอบตัวแก่ รัฐบาลทหารพม่า ดินแดนวัดถูกแยกเป็นสองส่วน มีเจดีย์สีเหลืองทองอร่ามอยู่ในแดนไทย และจะมองเห็นหลังคาโบสถ์สีแดงทรงไทยใหญ่อยู่ในฝั่งพม่า ด้านหลังเป็นศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราชชาวบ้านจะให้ความเคารพมาก และที่เชิงเขาด้านหลังเป็นสุสานนายพลโมเฮงอดีตผู้นำชาวไทยใหญ่ที่นี่

อำเภอดอยสะเก็ด


หนองบัวพระเจ้าหลวง

  หนองบัวพระเจ้าหลวง ตั้งอยู่ที่ ต. เชิงดอย อ. ดอยสะเก็ด เป็นหนองน้ำธรรมชาติ มีเนื้อที่ 102 ไร่ แต่ก่อนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากมีพื้นที่กว้างขวางมาก และมีนกเป็ดน้ำอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากเช่นกัน ปัจจุบันได้รับการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกครั้งหนึ่ง โดยมีการขุดลอกสระพร้อมปลูกบัวถึง 54 ชนิดขึ้นใหม่
 
โป่งน้ำร้อน 

      อาบน้ำแร่ธรรมชาติ ผ่อนคลายสุขภาพในบริเวณร่มรื่น เต็มไปด้วยธรรมชาติ มีอากาศที่บริสุทธิ์ ตั้งอยู่หมู่ที่ 4 บ้านโป่งกุ่ม ระยะทางห่างจากอำเภอ ประมาณ 13 กิโลเมตร
 
บ้านปางแดง

      วิถีชีวิตของชุมชนชาวกระเหรี่ยงบ้านปางแดง หมู่บ้านกระเหรี่ยงที่มีวิถีชีวิตผูกผันกับผืนป่า   ขุนเขา และสายน้ำ ด้วยความเป็นอยู่อย่างเรียบง่าย อาศัยหลักการพึ่งพิงธรรมชาติเป็นหมู่บ้านที่มีวิถีชีวิตดั้งเดิม เป็นเอกลักษณ์ของชุมชนชาวกระเหรี่ยง
 
 น้ำตกห้วยหม้อ

        ชมน้ำตกงามกลางป่าธรรมชาติ สายธารไหลลดหลั่นไปตามโขดหิน รายล้อมด้วยป่าไม้ ตั้งอยู่หมู่ที่ 4 บ้านโป่งกุ่มตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 2 บ้านห้วยหม้อ ตำบลป่าเมี่ยง เป็นน้ำตกที่ตกจากผาหินสูง เป็นสถานที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของอำเภอดอยสะเก็ด
 
น้ำตกป่าสัก

เป็นน้ำตกที่สวยงาม เป็นน้ำตกที่ตกจากหน้าผาสูง มีอากาศที่บริสุทธิ์รายล้อมด้วยธรรมชาติตั้งอยู่หมู่ที่ 1 บ้านป่าสักงาม ตำบลลวงเหนือ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่
 
เขื่อนแม่กวง

ตั้งอยู่ในเขตหมู่บ้านวังธาร ต. ลวงเหนือ อ. ดอยสะเก็ด เป็นโครงการเนื่องมาจากพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อปีพ.ศ. 2508 และก่อสร้างเสร็จเมื่อประมาณปี 2535 เขื่อนแม่กวงมีความจุ 263 ล้านลูกบาศก์เมตร ตัวเขื่อนสูง 73 ม. ยาว 610 ม.สามารถส่งน้ำทางการเกษตรในท้องที่ อ.ดอยสะเก็ด สันกำแพง และบางส่วนของ จ.ลำพูน เขื่อนแม่กวงเป็นเขื่อนที่มีทิวทัศน์ และลักษณะสวยงามตามธรรมชาติอีกแห่งหนึ่ง การเดินทางสามารถใช้เส้นทางเชียงใหม่-เชียงราย 20 กม.และมีป้ายขนาดใหญ่ทางซ้ายมือ เลี้ยวซ้ายเข้าไปอีกประมาณ6 กม. เป็นเขื่อนกักเก็บน้ำขนาดใหญ่  มีธรรมชาติสวยงาม เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ มีร้านอาหาร และที่ตกปลา




สวนทวีชล

ตั้งอยู่ที่ถนนเชียงใหม่ - ดอยสะเก็ด ตำบลเชิงดอย สิ่งที่น่าสนใจ
ประกอบด้วย 4 ส่วน ได้แก่  1. ศูนย์รวมพันธุ์ไม้ เป็นส่วนที่จัดแสดงพันธ์ไม้ประเภทต่างๆ เช่น ปาล์ม กว่า 58 ชนิด พืชจากป่าเมืองร้อน กระบองเพชร บอนสี สวนต้นไม้ประจำจังหวัด  2. สวนไม้ดัด ซึ่งดัดเป็นรูปสัตว์ต่างๆ เช่น ยีราฟ, คิงคองสูง 6 เมตร และพญานาคยาว 130 เมตร ไม้ดัด 12 ราศรี พร้อมคำพยากรณ์  3.  สวนสัตว์ สัตว์ที่นำมาแสดงได้แก่ อูฐ กวาง นกกระจอกเทศ คาศวารี่ เป็นต้น 4.พิพิธภัณฑ์ ประกอบด้วยห้องหลักๆ  4.  ห้อง คือ ห้องประดิษฐานพระแก้วขาวจำลอง ห้องเจ้าดารารัศมีห้องชายหาญ ซึ่งแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆของชาวล้านนาในอดีต ห้องธารสินแสดงเครื่องรางของขลังของเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงมี บริการพาทัวร์สวนโดยรถแทรม มีรถจักรยาน เรือ ให้เช่าเพื่อชมสถานที่ และมีบริการแคมปิ้งสำหรับกลุ่มนักเรียน และโรงแรมที่พักสำหรับนักท่องเที่ยว  เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.00-16.30 น. ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท รายละเอียด โทร. / โทรสาร 0 5386 7151 เว็บไซต์http://www.tweecholbotanicgarden.com/
เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยว เพื่อการ เรียนรู้ เพื่อการศึกษา โดยรวบรวมพันธุ์ไม้หายากมารวมไว้ที่นี่ เพื่อความเพลิดเพลิน เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ
 
น้ำตกเทพเสด็จ

  น้ำตกเทพเสด็จ หรือที่เรียกันว่า น้ำตกตาดเหมย  ปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของชาวตําบลเทพเสด็จไปแล้ว ตั้งอยู่บ้านดง หมู่ที่ 6 ตำบลเทพเสด็จ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ห่างจากตัวอำเภอประมาณ 30 กิโลเมตร และห่างจากองค์การบริหารส่วนตำบลเทพเสด็จไปทางทิศตะวันออก ประมาณ 2.5 กิโลเมตร มีความสูงใหญ่สวยงามตระการตาและ ยังคงอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติในเขตท้องที่ของตําบลเทพเสด็จ นอกจากนี้บริเวณรอบๆมีความหลากหลายทางชีววิทยาสูงมาก 
 
ภูลังกา

เป็นภูเขาสูงระดับ 2,000 เมตร สภาพป่าเป็นป่าสนและมีทุ่งหญ้าเขียวขจีตลอดทั้งปี ในฤดูหนาวจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเพื่อมาพิชิดความสูงและชมทะเลหมอกและวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ดอยภูลังกา เป็นสันเขาแคบๆ ด้านตะวันตกเป็นป่าดงดิบเขาด้านทิศตะวันออกเป็นหน้าผาสูงชันมีหญ้าปกคลุมและลมพัดแรง เมื่อขึ้นไปบนยอดดอยชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกยามเช้าได้สวยงาม และสามารถมองเห็นประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

อำเภอเชียงดาว


ถ้ำเชียงดาว


เป็นถ้ำที่น่าสนใจถ้ำหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ อยู่ในเขต อำเภอเชียงดาว ตั้งอยู่เชิงเขาของดอยหลวงเชียงดาว ภายใน แต่ละถ้ำ มีความงามจากการเสกสรรปั้นแต่งของธรรมชาติ ชวนให้ตื่นตาตื่นใจกับปรากฏการณ์ของหินงอกหินย้อย ที่ก่อให้ เกิด รูปร่างต่างๆเป็นถ้ำขนาดใหญ่ ภายในมีหินงอกหินย้อยที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติที่สวยงาม บางแห่งเป็นซอกหลืบ เมื่อฉายไฟ จะมีประกายระยิบระยับ สามารถจินตนาการเป็นรูปต่างๆได้มากมาย เสน่ห์อย่างหนึ่งของที่นี่อยู่ตรงที่มีน้ำใส่ไหลเย็นจากในถ้ำไหล ออกมาที่บริเวณหน้าถ้ำ เป็นอย่างนี้ชั่วนาตาปีไม่มีเหือดหาย และไหลมารวมกันเป็นสระน้ำมีปลาน้อยใหญ่ว่ายวนไปมา ทำให้ บรรยากาศสดชื่นและยังร่มรื่น ด้วยพันธุ์ไม้ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศมาเที่ยวกันเป็นจำนวนมากและ ตรงหน้าถ้ำนี้เองเป็นที่ตั้งของ วัดถ้ำเชียงดาว
 
โครงการหลวงห้วยลึก 
ตั้งอยู่ที่ ตำบลปิงโค้ง อำเภอเชียงดาว ไปตามเส้นทางสายเชียงใหม่-ฝาง ประมาณกิโลเมตรที่ 95คนเมืองในบริเวณพื้นที่ โดยทำการส่งเสริม วิจัย และเพาะพันธุ์ให้แก่เกษตรกร ผลิตผล ได้แก่ ผักจำพวกผักสลัด แคนตาลูป ฯลฯ ไม้ดอก เช่น เบญจมาศ พีค็อก ฯลฯ ไม้ผล เช่น เสาวรส ทับทิม ฝรั่งคั้นน้ำ เป็นต้น ฤดูท่องเที่ยวของที่นี่จะอยู่ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-มีนาคม เนื่องจากมีผลิตผลให้ชมและซื้อหาได้ รายละเอียด โทร. 0 5345 1116 ต่อศูนย์ห้วยลึก
 

ดอยเชียงดาว

 อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยเชียงดาว อำเภอเชียงดาว ยอดสูงสุดของดอยเชียงดาว เรียกว่า ดอยหลวงเชียงดาว  มีลักษณะเป็นภูเขาหินปูนรูปกรวยคว่ำสูง 2,195 เมตร จากระดับน้ำทะเล นับเป็นยอดดอยที่สูงอันดับ ของประเทศ จากบนยอดดอยซึ่งเป็นที่ราบแคบๆ สามารถมองเห็นทัศนียภาพอันงดงามรอบด้าน คือ ทะเลหมอกด้านอำเภอเชียงดาว ดอยสามพี่น้อง เทือกดอยเชียงดาว ตลอดจนถึงยอดดอยอินทนนท์อันไกลลิบอา กาศเย็น ลมแรง และสมบูรณ์ด้วยดอกไม้ป่าภูเขาที่หาชมได้ยากมากมายรวมทั้งนกและผีเสื้อด้วย 

อำเภอแม่แตง


พิพิธภัณฑ์แหล่งเตาเผาอินทขิล
            เป็นแหล่งขุดพบแหล่งเตาเผาอินทขิลเมืองแกน ซึ่งมีความสำคัญมากทั้งในทางประวัติศาสตร์และโบราณคดี  เพราะเป็นการยืนยันว่า ทุ่งพันแอกพันเฝือเมืองแกน ที่มีมาตั้งแต่สมัยพญามังราย นั้นมีอยู่จริงตามประวัติศาสตร์ล้านนานอกจากนั้นยังมีความสำคัญทางโบราณคดี เพราะแหล่งที่ค้นพบนั้นมีความสมบูรณ์ทั้งเตาเผาและตัวอย่างเศษถ้วยชาม ซึ่งในทางภาคเหนือตอนบนยังไม่เคยพลแหล่งใดที่มีความสมบูรณ์สวยงามเช่นนี้มาก่อน

          
 อุทยานแห่งชาติศรีลานนา
             จัดเป็นป่าต้นน้ำลำธารชั้นหนึ่งประกอบด้วยสัตว์ป่าและสภาพป่าธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ครอบคลุมพื้นที่ป่าแม่งัด ป่าแม่แตงและป่าเชียงดาว ในท้องที่อำเภอพร้าว อำเภอแม่แตงและอำเภอเชียงดาว รวมเนื้อที่ 652,000 ไร่

อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง
            ป่าธรรมชาติที่สมบูรณ์บนภูเขาสูงชันสลับซับซ้อน ครอบคลุมพื้นที่อำเภอแม่แตงจังหวัดเชียงใหม่และอำเภอปายจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นป่าต้นน้ำลำธาร ที่มีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สวยงามและจุดชมวิวที่สามารถชมบรรยากาศและธรรมชาติที่สวยงาม โดยเฉพาะทะเลหมอกในตอนเช้า


โป่งร้อน
            อยู่ในป่าสงวนแห่งชาติแม่ปาย สภาพธรรมชาติของโป่งร้อนเป็นบ่อน้ำร้อน พร้อมทั้งมีน้ำร้อนไหลเรื่อยๆทั่วบริเวณกว้าง บ่อน้ำร้อนแห่งนี้มีบ่อใหญ่2บ่อ นอกนั้นมีลักษณะเป็นน้ำผุดบางจุด ความร้อนของน้ำประมาณ 80 องศาเซลเซียส

น้ำตกหมอกฟ้า
            ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย เดินทางไปตามถนนแม่มาลัย-ปาย กิโลเมตรที่ 19 เป็นน้ำตกชั้นเดียวที่มีขนาดไม่ใหญ่มากแต่มีน้ำไหลตลอดทั้งปีและมีบรรยากาศร่มรื่นเหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ

อำเภอแม่ริม


น้ำตกแม่สา  แยกเข้าทางซ้ายมือตรงกิโลเมตรที่ 7 เข้าเขตวนอุทยาน น้ำตกแม่สาเป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงของอำเภอแม่ริม แบ่งเป็นชั้นๆ ขึ้นไปตามเชิงเขาถึง 8 ชั้น ชั้นที่สวยที่สุด คือชั้นที่ 5-7 ความสูงชั้นละประมาณ 6-8 เมตร ทั่วบริเวณปกคลุมด้วยต้นไม้ใหญ่ ทำให้สภาพอากาศร่มรื่นเย็นสบายตลอดปี เป็นสถานที่พักผ่อนที่ได้รับความนิยมมากทั้งชาวเชียงใหม่และนักท่องเที่ยวต่างถิ่น

                ม่อนแจ่ม มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี รวมถึงที่พักที่สะดวกสบาย ที่สำคัญร้านอาหารของรีสอร์ทยังมีเมนูที่น่าสนใจมากๆ ที่ปรุงจากผลผลิตสดๆ ในท้องถิ่นของโครงการหลวง ให้เราได้อิ่มอร่อยตลอดทั้งวัน และในบริเวณรีสอร์ทก็มีมุมสวยๆ ไว้ให้เก็บภาพความประทับใจกลับไปมากมาย ซึ่งหลายต่อหลายสิ่งที่มีอยู่ในม่อนแจ่มนั้น เราไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นตัวอักษรได้หมด หากแต่รอให้คุณไปสัมผัสด้วยตัวเอง เชื่อเราเถอะว่ามันบรรยายได้ไม่หมดจริงๆ
                สวนกล้วยไม้และฟาร์มผีเสื้อ  ตามเส้นทางนี้มีอยู่หลายแห่งที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม ได้รวบรวมพันธุ์กล้วยไม้ที่แปลกและหาดูได้ยากไว้ด้วย อาทิ สายน้ำผึ้งพิพิธภัณฑ์กล้วยไม้ไทย ไปตามถนนสายแม่ริม-สะเมิง 2 กิโลเมตร และแยกซ้ายอีก 1 กิโลเมตร เป็นสวนกล้วยไม้ที่ใหญ่ที่สุดในเชียงใหม่ มีฟาร์มผีเสื้อ แมวไทย และสัตว์อื่นๆ ให้ชมด้วย โทร. 0 5329 71520 5329 8771-2  ตรงกันข้ามเป็น สวนกล้วยไม้เมาท์เท่น ออร์คิด  โทร. 0 5329 7343  แม่แรมออร์คิด ตั้งอยู่ประมาณกิโลเมตรที่ 5.5 มีการปลูกพันธุ์กล้วยไม้นานาชนิด สาธิตการปลูกกล้วยไม้  และจัดเป็นฟาร์มผีเสื้อด้วย จำหน่ายสินค้าที่ระลึกประเภทเครื่องประดับ เช่น เข็มกลัด ต่างหู สร้อย ซึ่งทำจากกล้วยไม้ ใบไม้ และแมลงต่างๆ โทร. 0 5329 8801-2 
                ฟาร์มงูแม่สา  ตั้งอยู่ประมาณกิโลเมตรที่ 3 เส้นทางสายแม่ริม-สะเมิง เป็นสถานที่รวบรวมพันธุ์งูที่มีในเมืองไทยและศึกษาด้านการขยายพันธุ์ มีการแสดงของงูและการรีดพิษงูให้นักท่องเที่ยวชมทุกวัน แบ่งเป็นรอบๆ แต่ละรอบใช้เวลาแสดงประมาณ 30 นาที ค่าผ่านประตู เด็ก 100 บาท ผู้ใหญ่ 200 บาท ข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0 5386 0719
                พิพิธภัณฑ์บ้านคำอูน   ตั้งอยู่ประมาณกิโลเมตรที่ 4 ริมถนนด้านขวามือ ตรงข้ามกับฟาร์มงูแม่สา เป็นแหล่งรวมของศิลปวัตถุโบราณและหายากยุคบ้านเชียงถึงปัจจุบัน บ้านสร้างด้วยไม้สักทองสวยสะดุดตา แวดล้อมด้วยพันธุ์พฤกษชาติและกล้วยไม้ป่านานาพันธุ์ให้ความร่มรื่น รายละเอียดติดต่อได้ที่ โทร. 0 5329 8068 เปิดให้ชมทุกวัน ระหว่างเวลา 09.00-16.00 น. ค่าเข้าชม เด็ก 30 บาท ผู้ใหญ่ 100 บาท
                สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์  ตั้งอยู่ในพื้นที่จำนวน 3,500 ไร่ ทางเข้าอยู่ด้านซ้ายมือบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 12 สายแม่ริม-สะเมิง จัดทำเป็นสวนพฤกษศาสตร์ที่สมบูรณ์แบบที่สุดในประเทศไทยและมีมาตรฐานระดับนานาชาติ เป็นแหล่งรวบรวมพรรณไม้ชนิดต่างๆ โดยเฉพาะไม้ประจำถิ่นและไม้ที่กำลังจะสูญพันธุ์ เพื่อจัดปลูก ขยายพันธุ์ และศึกษาวิจัย   ลักษณะการจัดสวนของที่นี่จะแบ่งพันธุ์ไม้ตามวงศ์และความเหมาะสมของสภาพพื้นที่ รวบรวมพันธุ์ไม้ทั้งในและต่างประเทศ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาเกี่ยวกับพันธุ์ไม้ สามารถขับรถเที่ยวชมรอบๆ ได้  จุดที่แวะชมได้ คือ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ศูนย์เพาะกล้วยไม้ไทย อาคารพืชสมุนไพร พิพิธภัณฑ์พืชสมุนไพร ศูนย์วิจัย และอาคารเรือนกระจก  และมีเส้นทางเดินเท้าที่จัดไว้ 3 เส้น คือ 1. Rock Garden – Thai Orchid Nursery   (สวนหิน-ศูนย์อนุบาลกล้วยไม้ไทย) ใช้เวลาประมาณ 30-60 นาที  2. Arboreta (เส้นทางศึกษาพรรณไม้)  รวบรวมพรรณไม้ไว้มากกว่า 10 วงศ์ เช่น กล้วย ปาล์ม ไซแคด เฟิร์น ขิง เป็นต้น ใช้เวลา 45-60 นาที           3. Climber Collection (เส้นทางขึ้นเขา) ใช้เวลา 1-2 ชั่วโมง

อำเภอเมืองเชียงใหม่

1. อนุสาวรีสามกษัตริย์

 ตั้งอยู่บริเวณใจกลางเมืองเชียงใหม่  อยู่ด้านหน้า หอศิลปวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ ใกล้กับ วัดอินทขีลสะดือเมือง เป็นพระบรมราชานุสาวรีย์แห่งการระลึกถึงการสร้างเมืองเชียงใหม่ของ พญามังราย และพระสหายทั้งสอง คือ พญางำเมือง เจ้าเมืองพะเยา และ พญาร่วง (พ่อขุนรามคำแหง) เจ้าเมืองสุโขทัย เมื่อครั้งพระองค์ทรงย้ายเมืองจากเวียงกุมกาม มาสร้างเมืองเชียงใหม่ขึ้นอันเป็นชัยภูมิที่ดีกว่า โปรดฯ ให้สร้างที่ประทับชั่วคราวขึ้นบริเวณวัดเชียงมั่นในปัจจุบัน และได้ร่วมกับพระสหายทั้งสองสร้างเมืองเชียงใหม่ขึ้น เมื่อปี พ.ศ. 1839 จนแล้วเสร็จในปีเดียวกัน ซึ่งขนานนามเมืองที่สร้างขึ้นใหม่นี้ว่า "นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่"  พระบรมราชานุสาวรีย์หล่อด้วยทองเหลืองและทองแดงรมดำ มีขนาดเท่าครึ่ง โดยมีความสูง2.70 เมตร ออกแบบและทำการปั้นหล่อโดยอาจารย์ ไข่มุกด์ ชูโต พระบรมรูปประกอบด้วย พญามังรายประทับกลางเป็นประธาน พญาร่วงประทับอยู่เบื้องซ้าย พญางำเมืองประทับอยู่เบื้องขวา

สถานที่ตั้ง  ถ.พระปกเกล้า ต.ศรีภูมิ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่

2. อนุสาวรีครูบาศรีวิชัย

ครูบาศรีวิชัยเป็นบุคคลแรกที่บุกเบิกการสร้างถนนขึ้นไปถึงพระบรมธาตุดอยสุเทพ อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัยตั้งอยู่บนทางขึ้นดอยสุเทพ ก่อนถึงน้ำตกห้วยแก้ว ผู้ที่จะขึ้นไปนมัสการพระบรมธาตุดอยสุเทพมักจะลงนมัสการอนุสาวรียครูบาศรีวิชัยเพื่อความเป็นสิริมงคลด้วย ครูบาศรีวิชัยเป็นผู้ริเริ่มชักชวนให้ประชาชนชาวเหนือร่วมแรงร่วมใจกันสร้างถนนจากเชิงดอยขึ้นไปสู่วัดพระบรมธาตุดอยสุเทพ โดยเริ่มลงมือเมื่อวันที่ พฤศจิกายน2477 และแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ.2478 รวมระยะทางจากเชิงดอยไปถึงวัดพระบรมธาตุดอยสุเทพ ประมาณ 10กิโลเมตร

3. พระบรมธาตุดอยสุเทพ

วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร เป็นพระอารามหลวง ชั้นโท ชนิดราชวรวิหาร ตั้งอยู่บนยอด ดอยสุเทพ เป็นหนึ่งในวัดของจังหวัดเชียงใหม่ที่มีความสำคัญมากที่สุด ในวัดมีเจดีย์ทรงเชียงแสน ฐานสูงย่อมุมระฆังทรงแปดเหลี่ยมปิดด้วยทองจังโก ชั้น ลานเจดีย์เป็นจุดชมทิวทัศน์เมืองเชียงใหม่ ทางขึ้นเป็นบันไดนาคเจ็ดเศียรก่อปูน   วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1929 ในสมัยพญากือนา กษัตริย์องค์ที่ 6 แห่งอาณาจักรล้านนา ราชวงศ์เม็งราย พระองค์ทรงได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุองค์ใหญ่ ที่ได้ทรงเก็บไว้สักการบูชาส่วนพระองค์ถึง 13 ปี มาบรรจุไว้ที่นี่ ด้วยการทรงอธิษฐานเสี่ยงช้างมงคลเพื่อเสี่ยงทายสถานที่ประดิษฐาน พอช้างมงคลเดินมาถึงยอดดอยสุเทพ มันก็ร้องสามครั้ง พร้อมกับทำทักษิณาวัตรสามรอบ แล้วล้มลง พระองค์จึงโปรดเกล้าฯให้ขุดดินลึก 8 ศอก กว้าง 6 วา 3 ศอก หาแท่นหินใหญ่ 6 แท่น มาวางเป็นรูปหีบใหญ่ในหลุม แล้วอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุลงประดิษฐานไว้ จากนั้นถมด้วยหิน แล้วก่อพระเจดีย์สูง 5 วา ครอบบนนั้น ด้วยเหตุนี้จึงห้ามพุทธศาสนิกชนที่ไปนมัสการสวมรองเท้าใน บริเวณพระธาตุ และมิให้สตรีเข้าไปบริเวณนั้น ในปี พ.ศ. 2081 สมัยพระเมืองเกษเกล้า กษัตริย์องค์ที่ 12 ได้ทรงโปรดฯให้เสริมพระเจดีย์ให้สูงกว่าเดิม เป็นกว้าง 6 วา สูง 11 ศอก พร้อมทั้งให้ช่างนำทองคำทำเป็นรูปดอกบัวทองใส่บนยอดเจดีย์ และต่อมาเจ้าท้าวทรายคำ ราชโอรสได้ทรงให้ตีทองคำเป็นแผ่นติดที่พระบรมธาตุ     ในปี พ.ศ. 2100 พระมหาญาณมงคลโพธิ์ วัดอโศการาม เมืองลำพูนได้สร้างบันไดนาคหลวงทั้ง ข้าง เพื่อให้ประชาชนขึ้นไปสักการะได้สะดวกขึ้น และกระทั่งถึงสมัยครูบาศรีวิชัย ท่านได้สร้างถนนขึ้นไป โดยถนนที่สร้างนี้มีความยาวถึง 11.53 กิโลเมตร

4. ถนนคนเดินท่าแพ

 ตั้งอยู่บริเวณประตูเมืองท่าแพ   ต่อไปยังถนนราชดำเนิน     เป็นถนนคนเดินที่ดังและใหญ่ที่สุด   เปิด เฉพาะ วันอาทิตย์ เวลาประมาณ 17.00 - 22.00 น. เป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าขนาดใหญ่  มีสินค้าให้เลือกสรร มากมายหลากหลายประเภท ทั้งสินค้าทางวัฒนธรรม เช่น สินค้าพื้นเมือง จำพวกเครื่องประดับตกแต่ง เสื้อผ้า ของที่ระลึก กระเป๋า ผ้าพันคอ โคมไฟ ฯลฯ  หรือจะเป็นสินค้าแฟชั่นก็มีให้เห็นอยู่โดยทั่วไป รวมทั้งของกิน เช่น ขนมจีนน้ำเงี้ยว/น้ำยา ของ ทานเล่น โรตี ฯลฯ หากมาเยือนในช่วงอากาศหนาว ๆ เดินเที่ยวกาดกลางคืน ถนนคนเดินเชียงใหม่ก็เพลิดเพลินไปอีก แบบหนึ่ง ซึ่งที่นี่เป็นถนนคนเดินที่ใหญ่ที่สุดในเชียงใหม่และได้รับ ความสนใจอย่างมากจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ

5. วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร


เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ในบริเวณคูเมืองเชียงใหม่ ถนนสามล้าน ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ วัดพระสิงห์ฯ เป็นวัดสำคัญวัดหนึ่งของเมืองเชียงใหม่ เป็นประดิษฐานพระสิงห์ (พระพุทธสิหิงค์) พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองเชียงใหม่และแผ่นดินล้านนา พระพุทธรูปเป็นศิลปะเชียงแสนรู้จักกันในชื่อ "เชียงแสนสิงห์หนึ่ง"     พญาผายู กษัตริย์เชียงใหม่ราชวงศ์เม็งราย โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1888 ขั้นแรกให้ก่อสร้างเจดีย์สูง 23 วา เพื่อบรรจุพระอัฐิของพญาคำฟู พระราชบิดา ต่อมาอีก 2 ปี จึงได้สร้างพระอาราม เสนาสนวิหาร ศาลาการเปรียญ หอไตร และกุฏิสงฆ์ เมื่อเสร็จเรียบร้อย ทรงตั้งชื่อว่า "วัดลีเชียงพระ" สมัยพระเจ้าแสนเมืองมา ขึ้นครองนครเชียงใหม่ โปรดให้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์มาจากเมืองเชียงราย เมื่อขบวนช้างอัญเชิญมาถึงหน้าวัด ช้างก็ไม่ยอมเดินทางต่อ พระเจ้าแสนเมืองมา จึงโปรดให้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ประดิษฐาน ณ วัดลีเชียงพระ ประชาชนทางเหนือนิยมเรียกพระพุทธสิหิงค์ ว่า "พระสิงห์" จึงเป็นที่มาของชื่อ "วัดพระสิงห์" ในปี พ.ศ. 2360 พระญาธัมมลังกา หรือพระเจ้าช้างเผือกธรรมลังกา พระอนุชาของพระเจ้ากาวิละ โปรดให้บูรณะพระอุโบสถและพระเจดีย์   ต่อมาในปี พ.ศ. 2467 เจ้าแก้วนวรัฐ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์สุดท้าย พร้อมด้วยครูบาศรีวิชัย และประชาชนชาวเชียงใหม่ ได้ร่วมกันบูระฃณะปฏิสังขรณ์วัดพระสิงห์อีกครั้ง และได้มีการขุดพบสิ่งของมีค่ามากมาย อาทิ แผ่นทองคำจารึกเรื่องราวต่างๆ โกศบรรจุอัฐิพระญาคำฟู แต่สิ่งของเหล่านี้สูญหายไปในช่วงสงครามเอเชียบูรพา และในปี พ.ศ. 2493 วัดพระสิงห์(ศาสนา) ได้รับโปรดเกล้าให้เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร
สถานที่ตั้ง   ถนนสามล้าน ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่